คำถามที่พบบ่อย
  • เครื่องถ่ายเอกสารระบบมัลติฟังก์ชั่น

    Q : หากต้องการเช็คมิเตอร์การใช้งานของเครื่องถ่าย เอกสาร จะมีวิธีการอย่างไร ?

    A :  เครื่องถ่ายฯแต่ละรุ่นมีวิธีเช็คมิเตอร์การใช้งานที่แตกต่างกันโดยรุ่นที่มีการสอบถามเข้ามามากมีดังนี้ รุ่น MX-M452N, MX-M453N, MX-M623U, MX-2010U และรุ่นที่รหัสขึ้นต้นด้วย MX จะมีวิธีการเช็คมิเตอร์เหมือนกัน คือ กดปุ่ม “ Copy ” ค้างไว้
  • เครื่องถ่ายเอกสารระบบมัลติฟังก์ชั่น

    Q : หากต้องการดาวโหลด Driver เพื่อทำการติดตั้งเครื่องถ่ายเอกสาร จะสามารถดาวโหลดได้จากแหล่งใด?

    A :  ลูกค้าสามารถดาวโหลด Driver ได้ด้วยตนเองที่ http:// support.sharp.net.au ในหัวข้อ Download เลือก Software & Driver ซึ่งภายใน website จะมีวิธี การดาวโหลดและรุ่นต่างๆ ตามที่ลูกค้าต้องการ
  • เครื่องถ่ายเอกสารระบบมัลติฟังก์ชั่น

    Q : ในการสั่งซื้อผงหมึก ทางชาร์ปคิดว่าจัดส่งและบริการเปลี่ยนผงหมึกหรือไม่ ?

    A :  หากลูกค้ามีการสั่งซื้อผงหมึกโดยตรงจาก บริษัท ชาร์ปไทย จำกัด ทางบริษัทจะมีการจัดส่งและบริการเปลี่ยนผงหมึกให้ฟรี
  • เครื่องถ่ายเอกสารระบบมัลติฟังก์ชั่น

    Q : หากหน้าจอเครื่องถ่ายฯ ปรากฏ Error Code “ H4” มีความหมายว่าอย่างไร ?

    A :  เครื่องหมาย “ H4 ” ที่ปรากฏหมายถึง ระบบ Heater ของเครื่องกำลังมีปัญหา แก้ไขเบื้องต้นโดยกดปุ่ม c ต่อด้วยปุ่ม Interrupt ต่อด้วยปุ่ม 0 และ ต่อด้วยปุ่ม Interrupt เมื่อหน้าจอดับแล้ว ให้ลูกค้ากดตัวเลข 14 จากนั้นกดปุ่ม START เครื่องจะทำการ Warm up และสามารถใช้ได้อีกครั้งหนึ่งแตอย่างไรก็ตาม หากแก้ไขด้วยวิธีเบื้องต้นแล้วเครื่องยังไม่สามารถทำงานได้ กรุณาติดต่อช่างบริการเพื่อทำการเช็คหลอด ส่งต้นฉบับและหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
  • เครื่องถ่ายเอกสารระบบมัลติฟังก์ชั่น

    Q : หากกระดาษติดที่เครื่องถ่ายเอกสารจะมีวิธีแก้ไขเบื้องต้นอย่างไร ?

    A :  เบื้องต้นให้ลูกค้าเช็คที่หน้าจอก่อนว่ากระดาษติดตรง ส่วนไหนของเครื่องหากติดบริเวณบายพาส ให้ลูกค้าเปิดฝาด้าน หน้าและฝาด้านข้างเพื่อดึงกระดาษออก แต่หากมีเศษเล็กๆติดอยู่ลูกค้าไม่ควรทำการแก้ไขด้วยตนเอง เพราะอาจทำให้เขี้ยวแยก กระดาษหักได้ ควรแจ้งช่างให้เข้ามาบริการเท่านั้น ข้อควรระวัง ไม่ควรใส่เครื่องประดับที่มือหรือข้อมือขณะทำการแก้ไขเครื่อง และห้ามนำไขควงหรือคัดเตอร์เขี่ยกระดาษที่ติดเพราะอาจทำให้อุปกรณ์ภายในเครื่องถ่ายฯ กระทบกระเทือนและเสียหายได้
  • เครื่องถ่ายเอกสารระบบมัลติฟังก์ชั่น

    Q : อาการถ่ายเอกสารเป็นเส้น มีวิธีแก้ไขเบื้องต้นอย่างไร?

    A :  ข้อสันนิษฐานเบื้องต้น อาจเป็นเพราะหมึก หรือลิควิดเปื้อนกระจก มีวิธีแก้ไขเบื้องต้นดังนี้

    1.1 หากถ่ายเอกสารโดยการเปิดฝาเครื่องแล้วเป็นเส้นตรงจุดเดิมเป็นการถ่ายเอกสารผ่านกระจก ให้ลูกค้าเช็ดทำความสะอาดกระจกบานใหญ่ให้ทั่ว ด้วยน้ำยาเช็ดกระจก หรือผ้าชุบน้ำบิดให้แห้ง

    1.2 หากถ่ายเอกสารผ่านหัวฝีดด้านบนแล้วเป็นเส้นตรงจุดเดิม ให้ลูกค้าเช็ดกระจกบานเล็กที่อยู่ด้านซ้ายมือของผู้ใช้ โดยเปิดฝาบนขึ้นและเช็ดด้วยน้ำยาเช็ดกระจก หรือผ้าชุบน้ำบิดให้แห้ง

    หากลูกค้าปฎิบัติตามวิธีการดังกล่าวแล้ว ยังปรากฏอาการหมือนเดิม ควรแจ้งช่างให้เข้าเช็คเครื่องต่อไป

  • เครื่องถ่ายเอกสารระบบมัลติฟังก์ชั่น

    Q : หน้าจอ ขึ้นสัญลักษณ์ เลขแปด "8" หรือ สัญลักษณ์ "สายฟ้า" หมายความว่าอย่างไร?

    A :  อาจมีกระดาษติดตรงส่วนใดส่วนหนึ่งของเครื่องถ่ายเอกสาร หรือเซ็นเซอร์เช็คกระดาษค้าง เบื้องต้นให้ลูกค้าเช็คโดยเปิดถาดด้านหน้า ด้านข้างก่อนเพื่อหากระดาษที่ติดอยู่ และดึงกระดาษออก หากลูกค้าปฎิบัติตามวิธีการดังกล่าวแล้ว ยังปรากฏอาการหมือนเดิม ควรแจ้งช่างให้เข้าเช็คเครื่องต่อไป
  • เครื่องถ่ายเอกสารระบบมัลติฟังก์ชั่น

    Q : เครื่องถ่ายเอกสารแสดงคำว่า CH หมายความว่าอย่างไร ?

    A :  หมายถึงลูกค้าปิดฝาเครื่องถ่ายเอกสารไม่สนิท ให้ลูกค้าปิดฝาหน้า ฝาข้าง เข้าไปใหม่
  • เครื่องถ่ายเอกสารระบบมัลติฟังก์ชั่น

    Q : ปริ้นท์ไม่ออก ถ่ายเอกสารไม่ได้ ทำอย่างไร ?

    A :  เบื้องต้นให้ลูกค้าดูที่หน้าจอเครื่องถ่ายเอกสารก่อนว่า มีสัญลักษณ์สามเหลี่ยมแสดงหรือไม่ หากมีสัญลักษณ์ดังกล่าว แสดงว่าผงหมึกหมด เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เครื่องปริ้นท์ไม่ได้ ถ่ายเอกสารไม่ได้
  • เครื่องถ่ายเอกสารระบบมัลติฟังก์ชั่น

    Q : เครื่องถ่ายเอกสารมีอาการเสียงดัง / เครื่องวอร์มนาน / กดปุ่ม start ไม่ได้ / ปุ่มต่าง ๆ ไม่ทำงาน

    A :  อาการข้างต้นที่กล่าวมานี้ เป็นอาการของผงหมึกหมด ต้องทำการเปลี่ยนหมึกใหม่ทันที
    • อควอส แอลอีดี

      Q : ลูกค้าต่อเครื่องเล่น DVD เข้ากับ LCD TV โดยต่อ Port HDMI มีภาพแต่ไม่มีเสียง

      A :  เข้า Menu เข้า Option เข้า HDMI Setup เข้า Audio Select เลือกเป็น Digital
    • อควอส แอลอีดี

      Q : การจูนช่องรับแบบผู้ใช้ปรับเอง เมื่อใส่ช่องความถี่แล้ว ทำไมยังรับภาพไม่ได้

      A :  ผู้ใช้ต้องเข้าไปปรับที่ Colour system ให้เป็น Auto และ ปรับที่ Sound system ให้เป็น B/G
    • อควอส แอลอีดี

      Q : อธิบายการใช้งานของรายการโหมดใน AV MODE

      A :  STANDARD : สำหรับให้ภาพคมชัดสูงในสภาพแวดล้อมปกติ
      MOVIE : สำหรับภาพยนตร์
      GAME : ให้ภาพที่ที่มีแสงสว่างน้อย เพื่อสามารถดูได้อย่างสบายตา
      USER : สำหรับผู้ใช้ตั้งค่าตามความต้องการ ซึ่งสามารถตั้งค่าในแต่ละช่อง
      DYNAMIC : สำหรับภาพที่มีความคมชัดสูง เหมาะสำหรับรับชมกีฬา
    • อควอส แอลอีดี

      Q : ในฟังก์ชั่น AV MODE ที่มีหมวดให้เลือกชมลักษณะบรรยากาศภาพ อยู่ 5 แบบ สามารถที่จะล๊อกให้ตรงกับอินพุท ได้หรือไม่

      A :  ได้ โดยสามารถเลือกความแตกต่างของค่า AV MODE ในแต่ละช่องอินพุท เช่น เลือก STANDARD สำหรับช่องอินพุท TV และเลือก DYNAMIC สำหรับช่องอินพุท VIDEO
    • อควอส แอลอีดี

      Q : เปิดเครื่องใช้งานประมาณ 2 ชั่วโมง เครื่องจะตัดดับ และเมื่อเปิดใหม่อีก เครื่องก็ใช้งานได้ ไม่ทราบว่าเครื่องเสียหรือเปล่า

      A :  อาการดังกล่าว เป็นการทำงานปกติของเครื่อง เพราะเครื่องถูกตั้งอยู่ในโหมด การตั้งค่าประหยัดพลังงาน เครื่องจะปิดอัตโนมัติเมื่อไม่มีการสั่งงานเป็นเวลา 2 ชั่วโมง วิธีแก้ไข MENU --> Option --> Power ControlNo --> Operation Off เลือกเป็น Disable
    • อควอส แอลอีดี

      Q : เครื่องรองรับสัญญาณในระบบ HDTV สัญญาณระบบ HDTV คือสัญญาณอะไร

      A :  ระบบ HDTV เป็นระบบหนึ่งในระบบส่งสัญญาณทีวีในระบบดิจิตอล ซึ่งเป็นระบบที่มีความละเอียดเส้นภาพสูง โดยทั่วไปจะส่งในระบบ 720 และ 1080 เส้น
    • อควอส แอลอีดี

      Q : ค่า Native Contrast Ratio เป็นค่าที่บ่งบอกถึงอะไร

      A :  อัตราคอนทราสที่สูง มีความจำเป็นในการแสดงภาพให้ได้สีสันที่สดใส มีมิติที่ชัดเจน สีขาว ขาวบริสุทธ์ สีดำจะดำจริง แม้ในห้องที่มีแสงสว่าง
    • เครื่องปรับอากาศ

      Q : คำแนะนำในการเลือกขนาดเครื่องปรับอากาศชาร์ป ให้เหมาะสมกับพื้นที่ห้อง

      A :  การเลือกเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมกับห้องนั้น ขึ้นอยู่กับตำแหน่งรับแสงแดด และขนาดของห้อง มีหน่วยเป็น ตารางเมตร ( กว้าง x ยาว ) และลักษณะการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ในห้อง มีสูตรในการคำนวณง่าย ๆ คือ 700 BTU ต่อตารางเมตรสำหรับห้องชั้นล่าง และ 750 BTU ต่อตารางเมตรสำหรับห้องชั้นบน
    • เครื่องปรับอากาศ

      Q : การตั้งอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศให้ประหยัดพลังงาน

      A :  ควรตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส เพราะเป็นอุณหภูมิที่พอเหมาะกับร่างกายและยังเป็นการยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศไปพร้อมกัน และที่สำคัญคือ อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 1 องศา จะทำให้ลดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 10% ส่วนความแรงของพัดลมมีผลน้อยมากต่อค่าไฟ ทั้งนี้ควรทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศของเครื่องปรับอากาศ ทุก 2 สัปดาห์ ตามคำแนะนำในคู่มือการใช้งาน และควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญทำความสะอาดด้วยการถอดล้างเครื่องปรับอากาศ ปีละ 2 ครั้ง หรือ 6 เดือนต่อหนึ่งครั้ง
    • เครื่องปรับอากาศ

      Q : การติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

      A :  1. เลือกขนาดของเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมกับพื้นที่ห้อง 2. ตำแหน่งการติดตั้ง ชุดในบ้าน (Indoor Unit) ควรติดตั้งในตำแหน่งการกระจายลมเย็นตามแนวยาวของห้อง เพื่อให้ความเย็น กระจายทั่วห้อง ส่วนชุดนอกบ้าน (Outdoor Unit) ควรติดตั้งในตำแหน่งไม่ถูกแสงแดดส่องถึง และควรมีระยะห่างกับชุดในบ้านไม่เกินความยาวท่อน้ำยา 5 เมตร ซึ่งถ้าเกินอาจจะทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศลดน้อยลง
      • เครื่องปรับอากาศ

        Q : หลักการทำงานของระบบ อินเวอร์ตเตอร์ ในเครื่องปรับอากาศชาร์ป

        A :  ระบบอินเวอร์ตเตอร์ สามารถเปลี่ยนแปลงความถี่ของแรงดันไฟฟ้า(เฮิรตซ์) ให้มีความถี่สูงขึ้น หรือต่ำลงได้ โดยความถี่ที่เปลี่ยนแปลงนี้จะกำหนดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ ให้เร่งรอบ หรือลดรอบการทำความเย็นในห้องได้ ตามอุณหภูมิที่เปลี่ยนไป คือเมื่อเปิดเครื่องปรับอากาศ คอมเพรสเซอร์จะเร่งรอบหมุนให้เร็ว ทำความเย็นที่บีทียูสูงสุดให้อุณหภูมิของห้องลดลงอย่างรวดเร็ว จนถึงอุณหภูมิที่ต้องการ โดยใช้เวลาในการทำความเย็นให้ได้อุณหภูมิที่ต้องการเร็วกว่าระบบทั่วไปถึง 30% จากนั้นคอมเพรสเซอร์จะค่อย ๆ ลดรอบหมุนให้ช้าลงจนถึงระดับบีทียูต่ำสุด เพื่อรักษาอุณหภูมิของห้องให้อยู่ในระดับที่ต้องการ โดยคอมเพรสเซอร์ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องจากหลักการนี้ทำให้
        - เย็นเร็วกว่า ด้วยประสิทธิภาพของคอมเพรสเซอร์ที่สามารถลดอุณหภูมิให้ถึงระดับความเย็นที่ต้องการ ได้เร็วกว่าเครื่องปรับอากาศระบบทั่วไปถึง 30%
        - ประหยัดไฟฟ้า โดยระบบคอมเพรสเซอร์ที่ถูกพัฒนาให้ทำงานอย่างต่อเนื่อง ไม่เดิน ๆ หยุด ๆ จึงช่วยประหยัดไฟฟ้าได้อีก 30%
        - สบายตัว คอมเพรสเซอร์ทำงาน โดยรักษาอุณหภูมิคงที่อย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้อุณหภูมิในห้องเปลี่ยนแปลงน้อยมากเพียง +- 0.2 องศา เซลเซียส จึงรู้สึกสบายตัวตลอดเวลา
        - ไร้เสียงรบกวน จากการเดิน ๆ หยุด ๆ เหมือนเครื่องปรับอากาศทั่วไป
      • เครื่องปรับอากาศ

        Q : รีโมทคอนโทรล สั่งงานไม่ได้

        A :  ถ้าหน้าจอรีโมท ไม่แสดงผลตามที่สั่ง ให้ลองเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ทั้ง 2 ก้อน แต่ถ้ายังใช้งานไม่ได้แนะนำให้นำรีโมทคอนโทรลมาตรวจสอบที่สำนักงานใหญ่
      • เครื่องปรับอากาศ

        Q : เครื่องปรับอากาศ ทำความเย็นได้ไม่ดีเท่าที่ควร

        A :  อาการที่เครื่องปรับอากาศไม่เย็นมีหลายสาเหตุด้วยกัน อาจจะมีสาเหตุดังต่อไปนี้
        1. การตั้งโหมดการทำงานของรีโมทไม่ถูกต้อง ต้องดูว่าการตั้งโหมดการทำงานของรีโมทอยู่ที่โหมดไหน ในการตั้งรีโมทถ้าจะให้ทำความเย็นอย่างเดียวนั้น จะต้องตั้งในโหมด COOL คือโหมดทำความเย็น ลักษณะของสัญลักษณ์คือ เป็นรูปคล้าย ดาวกระจาย ( * ) ที่ประมาณ 24 - 26 องศาจะช่วยให้ประหยัดไฟด้วย ถ้าอากาศร้อนยังสามารถปรับให้ลดอุณหภูมิต่ำกว่านี้ได้
        2. น้ำยาขาด ต้องตรวจสอบดูว่ามีรอยรั่วที่ไหนบ้าง และต้องทำการแก้ไขรอยรั่วแล้วค่อยเติมน้ำยา โดยช่างผู้ชำนาญการ
        3. การติดตั้งเครื่องปรับอากาศ คือในการติดตั้งเครื่องปรับอากาศจะต้องติดตั้งเครื่องปรับอากาศตามแนวยาวของห้อง เพราะจะทำให้กระจายลมเย็นทั่วห้อง และไม่ควรนำสิ่งของไปบังทิศทางลมที่ออกจากเครื่องปรับอากาศ เช่น ตู้หรือทีวี เพราะจะทำให้การสะท้อนของลมกลับมาเร็ว จะทำให้เครื่องปรับอากาศตัดการทำงานเร็วขึ้น
        4. หมั่นทำความสะอาดชุดกรองอากาศ เพื่อไม่ให้มีฝุ่นเกาะปิดบังทางระบายของลม
      • เครื่องฟอกอากาศ

        Q : การบำรุงรักษาเครื่องฟอกอากาศชาร์ป

        A :  ควรหมั่นทำความสะอาดเครื่องฟอกอากาศ และชุดกรองอากาศ (แผ่นกรองฝุ่น HEPA และแผ่นกรองกลิ่นคาร์บอน) อย่างสม่ำเสมอ ตามคู่มือการใช้งานของแต่ละรุ่น และเปลี่ยนชุดกรองอากาศตามระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นของสินค้า
      • เครื่องฟอกอากาศ

        Q : ชุดกรองอากาศของเครื่องฟอกอากาศชาร์ป มีอายุการใช้งานได้นานกว่ายี่ห้ออื่น

        A :  อายุการใช้งานของแผ่นฟอกอากาศ ถูกทดสอบตามมาตรฐาน JEM (Japan Electrical Manufacturer) ซึ่งทุกยี่ห้อในญี่ปุ่นใช้เหมือนกันหมด สาเหตุที่สามารถใช้นานกว่ายี่ห้ออื่น เพราะการทำงานของระบบฟอกอากาศชาร์ปพลาสม่าคลัสเตอร์ เป็นการพ่นอนุภาคไฟฟ้าบวกและลบออกมาฆ่าเชื้อโรคภายนอกเครื่อง กระบวนการทำอากาศให้สะอาด จะเกิดขึ้นภายนอกเครื่อง ดังนั้น อากาศที่ผ่านเข้าไปในเครื่องจะเป็นอากาศที่สะอาด จะมีฝุ่นละอองและกลิ่นบางส่วนที่ถูกดูดเข้าไปในเครื่องเพื่อดักเก็บไว้ที่แผ่นฟอก จึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ายี่ห้ออื่น
      • เครื่องฟอกอากาศ

        Q : การใช้เครื่องฟอกอากาศชาร์ป ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

        A :  เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้เครื่องฟอกอากาศชาร์ป แนะนำให้ใช้ clean mode (+ - + - ) สีน้ำเงิน-ฟ้า เพื่ออากาศที่สะอาด
      • เตาไมโครเวฟ

        Q : การเลือกซื้อเตาไมโครเวฟชาร์ป

        A :  เตาไมโครเวฟชาร์ปมีหลายรุ่น หลายราคา สามารถแบ่งเป็น 4 กลุ่มได้แก่
        - รุ่นไลท์อัพ ไดอัล เป็นการรวมระบบดิจิตอล และระบบอะนาล็อกเข้าด้วยกัน ปุ่มสั่งงานเป็น แบบลูกบิด ทุกรุ่นทำงานด้วยระบบไมโครเวฟ แต่ละรุ่นมีวิธีการใช้งานเหมือนกัน แตกต่างกันตรง เวลาปรุงอาหารสูงสุด สีสติ๊กเกอร์ คำสั่งการทำงานหน้าเครื่อง
        - รุ่นพิคเจอร์ดิจิตอล เป็นระบบปุ่มสัมผัส มีเมนูรูปภาพอาหารสำหรับโปรแกรมปรุงอาหารอัตโนมัติเพิ่มความสะดวก น่าใช้ ทุกรุ่นทำงานด้วยระบบไมโครเวฟ
        - รุ่นเพอร์เฟคชั่น เป็นระบบ 3 plus 1 มีระบบไมโครเวฟ ระบบอบเกรียม ระบบย่างพิเศษ และระบบผสมระหว่างไมโครเวฟกับระบบอบเกรียมและระบบไมโครเวฟกับระบบย่าง ทำอาหารได้หลากหลายประเภท ทั้งเบเกอรี่ พาย คุ้กกี้ พิซซา (ระบบอบเกรียม) และย่างเนื้อสัตว์ (ระบบย่าง)
        - รุ่นเมจิก กริลล์ เป็นระบบ 2 plus 1 มีระบบไมโครเวฟ ระบบย่าง และระบบผสม ที่ทำงานร่วมกันระหว่างระบบไมโครเวฟกับระบบย่าง ช่วยให้การอบและย่างเนื้อที่มีขนาดใหญ่สุกทั้งด้านใน และด้านนอก
      • เตาไมโครเวฟ

        Q : หลักการทำอาหารให้สุกด้วยเตาไมโครเวฟ

        A :  คลื่นไมโครเวฟเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่สูงถึง 2,450 ล้านรอบต่อวินาที ส่งผ่านไปยังอาหาร ทำให้โมเลกุลของน้ำในอาหารสั่นสะเทือนด้วยความถี่สูง ก่อให้เกิดเป็นพลังงานความร้อน ทำให้อาหารสุก
      • เตาไมโครเวฟ

        Q : เคล็ดลับในการปรุงอาหารให้อร่อยด้วยเตาไมโครเวฟ

        A :  ควรคำนึงถึงเรื่องต่อไปนี้
        - เวลาในการปรุงอาหาร จะขึ้นอยู่กับปริมาณของอาหาร ถ้าปริมาณอาหารมาก ต้องใช้เวลามาก
        - ถ้าขนาดของชิ้นอาหารใหญ่หรือมีปริมาณมาก ควรพลิกกลับหรือคนอาหารระหว่างการปรุง เพื่อให้อาหารสุกทั่วถึงกัน และเร็วยิ่งขึ้น
        - สำหรับเรื่องการจัดเรียงอาหาร ควรวางอาหารชิ้นบาง ๆ เล็ก ๆ ไว้กลาง และอาหารชิ้นใหญ่ไว้ริมจาน
        - การปิด เปิดภาชนะ ถ้าต้องการอาหารที่แห้งกรอบ ควรเปิดฝาภาชนะ หรือไม่มีสิ่งปกคลุม ถ้าต้องการอาหารที่มีความชื้น ควรปิดฝาภาชนะ
      • เตาไมโครเวฟ

        Q : ภาชนะที่ใช้กับเตาไมโครเวฟ

        A :  เครื่องแก้วทนความร้อน ภาชนะกระเบื้อง ภาชนะพลาสติกประเภททนความร้อน และควรเป็นพลาสติกที่ใช้สำหรับเตาไมโครเวฟ
        • เตาไมโครเวฟ

          Q : ภาชนะชนิดใดบ้าง ที่ไม่ควรใช้กับเตาไมโครเวฟ

          A :  ภาชนะที่ไม่ควรใช้กับเตาไมโครเวฟมีดังนี้ - ภาชนะที่เป็นโลหะทุกชนิด - ภาชนะที่มีขอบเงินขอบทอง หรือมีส่วนผสมของโลหะ ถ้าเป็นเตาไมโครเวฟที่มีหลายระบบอยู่ในเครื่องเดียว เช่น ระบบย่าง ระบบอบเกรียม และระบบผสม จะสามารถใช้ได้ แต่ก็ใช้ได้กับเฉพาะ 3 ระบบนี้เท่านั้น - แก้วเจียระไน และแก้วที่ไม่ทนความร้อน - ภาชนะพลาสติกที่ไม่ทนความร้อนทุกชนิด
        • เตาไมโครเวฟ

          Q : การทำความสะอาดเตาไมโครเวฟ

          A :  มีวิธีการดังนี้
          1. ภายนอกเตา
          - ทำความสะอาดโดยใช้น้ำสบู่ น้ำอุ่น แล้วเช็ดด้วยผ้านุ่มชุบน้ำเปียกหมาด ๆ เช็ดคราบรอยต่าง ๆ ออก
          2. ภายในเตา
          - ให้ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำบิดหมาด ๆ แล้วนำเข้าเตาไมโครเวฟ ใช้เวลาประมาณ 30 วินาที ระบบ HIGH เมื่อหมดเวลา จึงนำผ้าขนหนูมาเช็ดภายในเตา ความร้อนที่ผ้าขนหนูจะช่วยให้เศษอาหารและคราบไขมันออกได้ง่าย หลังจากนั้นเช็ดตามด้วยผ้าแห้ง แต่หากภายในเตามีเศษอาหารและคราบไขมันเกาะติดแน่นเป็นจำนวนมาก ควรใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำผสม น้ำยาล้างจานบิดหมาด ๆ เช็ดภายในเตา แล้วเช็ดตามด้วยผ้าแห้ง เพียงเท่านี้เตาไมโครเวฟของคุณก็จะสะอาดดังเดิม
          3. จานหมุน
          - ใช้ผ้านุ่มชุบน้ำเปียกหมาด เช็ดคราบอาหาร หรือจะนำจานหมุนออกมาทำความสะอาดภายนอก
          4. บริเวณพื้นเตา (ใต้จานหมุน)
          - ใช้ผ้าชุบน้ำเปียกหมาด เช็ดคราบรอยอาหารออก ข้อควรระวัง อย่าให้น้ำไหลเข้าไปในร่องที่อยู่ใต้จานหมุน ข้อแนะนำ ควรขจัดรอยเปื้อนของอาหารที่กระเด็นติดตามผนังเตาทุกครั้งที่เสร็จสิ้นการปรุงอาหาร
          ข้อห้าม ไม่ควรใช้ผงขัด และน้ำยาทำความสะอาดใด ๆ นอกเหนือจากน้ำยาล้างจานในการทำความสะอาดภายในและภายนอกเตา
        • เตาไมโครเวฟ

          Q : วิธีดับกลิ่นอาหารที่ติดค้างในเตาไมโครเวฟ

          A :  การดับกลิ่นอาหารที่ติดค้างในเตาไมโครเวฟ ทำได้โดยการนำใบชาผสมน้ำ 1 ถ้วยตวง แล้วนำไปต้มในเตาไมโครเวฟ ใช้เวลาประมาณ 1-2 นาที ระบบ HIGH เมื่อหมดเวลายังไม่ต้องนำภาชนะออกจากเตารอประมาณ 10นาที เพื่อให้ใบชาดูดกลิ่นอาหารให้หมด แล้วจึงใช้ผ้าแห้งเช็ดไอน้ำที่เกาะภายในเตาให้สะอาด
        • เตาไมโครเวฟ

          Q : วิธีการละลายอาหารแช่แข็งด้วย เตาไมโครเวฟ

          A :  ควรใช้พลาสติกแร็พห่อหุ้มอาหารประเภทแช่แข็ง ก่อนนำเข้าเตาไมโครเวฟ
          1. วางก้อนอาหารแช่แข็งที่ห่อหุ้มด้วยพลาสติกแล้ว ไว้ในเตา
          2. ใช้ระดับไฟ MEDIUM LOW 30 % ในเวลาและน้ำหนักของอาหารซึ่งกำหนดไว้ในคู่มือ
          3. เมื่อน้ำแข็งละลายออกมาส่วนหนี่งแล้ว ให้แกะพลาสติกแร็พออกจากอาหารแช่แข็ง
          4. นำอาหารวางบนจาน และปิดคลุมอาหารส่วนบนด้วยพลาสติกแร็พ
          5. นำเข้าเตาไมโครเวฟต่อจนน้ำแข็งละลาย
          คำแนะนำ ถ้าเป็นอาหารหรือเนื้อสัตว์ก้อนใหญ่ควรหั่นให้เป็นชิ้นเท่า ๆ กัน ก่อนที่จะนำแช่แข็งเพื่อง่ายต่อการละลายน้ำแข็ง
        • เตาไมโครเวฟ

          Q : เตาไมโครเวฟชาร์ปรุ่น Light-up dial ใส่อาหารเข้าไปในเตา และเสียบปลั๊ก เครื่องไม่ทำงาน

          A :  ให้เสียบปลั๊กก่อน แล้วเปิดประตูเตา นำอาหารใส่เข้าไปในเตาไมโครเวฟ ปิดประตูเตา และจึงสั่งงาน หรือสั่งงาน แล้วปิดประตูเตา แต่ถ้าใส่อาหารเข้าไปในเตาและปิดประตูก่อนการเสียบปลั๊ก ในบางรุ่นเครื่องอาจจะไม่ทำงาน ให้แก้ไข โดยให้เปิดประตูเตาไมโครเวฟ แล้วจึงปิดประตูอีกครั้งก่อนสั่งงาน
        • เตาไมโครเวฟ

          Q : วิธีทำอาหารประเภทไข่ อาทิ ไข่ต้ม ไข่ดาว ไข่ลวก ด้วยเตาไมโครเวฟ

          A :  วิธีทำไข่ต้ม
          นำไข่มาห่อด้วยกระดาษฟอยด์ โดยให้ด้านมันของกระดาษอยู่ด้านในแล้วใส่ในถ้วยแก้ว เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 นิ้ว ใส่น้ำพอประมาณ ปิดฝา นำเข้าเตาไมโครเวฟ ใช้เวลาประมาณ 5-6 นาที ระบบ HIGH เมื่อหมดเวลานำออกจากเตา พักไว้ประมาณ 5 นาที เพื่อให้ไข่สุกมากขึ้น
          วิธีทำไข่ดาว
          ตอกไข่ใส่ถ้วยเล็ก ๆ ที่ทาน้ำหรือน้ำมันพืชไว้แล้ว ปิดฝา นำเข้าเตาไมโครเวฟ ใช้เวลา ประมาณ 40-50 วินาที ระบบ MEDIUM
          วิธีทำไข่ลวก
          ตอกไข่ใส่ภาชนะทรงสูงเล็ก ๆ นำเข้าเตาไมโครเวฟ ใช้เวลาประมาณ 20 วินาที ระบบ HIGH
        • เตาไมโครเวฟ

          Q : วิธีเพิ่มปริมาณน้ำผลไม้ในการคั้น

          A :  น้ำมะนาวคั้น น้ำส้มคั้น จะได้ปริมาณน้ำผลไม้เพิ่มมากขึ้น โดยนำผลมะนาว หรือผลส้ม ประมาณ 5 ผล เข้าเตาไมโครเวฟระบบ HIGH ใช้เวลา 30 วินาที แล้วจึงนำผลมะนาวหรือผลส้มนั้น มาคั้น เพียงเท่านี้ ก็จะได้น้ำมะนาว หรือ น้ำส้มในปริมาณที่มากขึ้น
        • เตาไมโครเวฟ

          Q : วิธีทอดของแห้งด้วยเตาไมโครเวฟ

          A :  การทอดของแห้งด้วยเตาไมโครเวฟ เช่น กุ้งแห้ง ปลาหมึกแห้ง ปลาตัวเล็ก ฯลฯ สามารถทำได้โดยนำอาหารที่จะทอดใส่ภาชนะ ใส่น้ำมันเพียงเล็กน้อย พอให้น้ำมันติดตัวอาหาร คลุกเคล้าให้ทั่ว โดยไม่ต้องปิดฝาภาชนะ แล้วนำเข้าเตาไมโครเวฟใช้เวลาประมาณ 1-2 นาที ระบบ HIGH
        • เตาไมโครเวฟ

          Q : ระดับความร้อนของเตาไมโครเวฟที่เหมาะสำหรับปรุงอาหารแต่ละประเภท

          A :  ระดับความร้อนของเตาไมโครเวฟมี 5 ระดับคือ
          • HIGH 100 % เหมาะสำหรับอาหารประเภท หุง ผัด ต้ม นึ่ง อุ่น
          • MED HIGH 70% เหมาะสำหรับอาหารประเภท คั่ว
          • MED 50% เหมาะสำหรับอาหารประเภท ตุ๋น เคี่ยว
          • MED LOW 30% เหมาะสำหรับ ละลายอาหารแช่แข็ง
          • LOW 10% เหมาะสำหรับอุ่นอาหารประเภท โสม รังนก นม
        • เตาไมโครเวฟ

          Q : เตาไมโครเวฟตัวเครื่องด้านในเป็นสนิมสามารถซ่อมได้หรือไม่ และถ้าไม่ซ่อมจะเป็นอันตรายหรือไม่

          A :  สามารถซ่อมได้ด้วยตนเอง แต่ต้องยังไม่ทะลุ วิธีการคือ ใช้กระดาษทรายขัดบริเวณที่เป็นสนิมแล้วเช็คทำความสะอาด ใช้สีสเปรย์สีขาวพ่นบาง ๆ บริเวณที่ขัดให้ทั่ว และพ่นซ้ำอีก 2-3 ครั้ง ถ้าส่งซ่อมที่บริษัท หรือศูนย์ซ่อม จะไม่มีให้บริการเรื่องพ่นสี แต่จะเปลี่ยนโครงตู้ด้านใน ถ้าไม่ซ่อมอาจเป็นอันตรายต่อตัวทำความร้อน (Magnetron) ได้ เพราะจะทำให้คลื่นสะท้อนกลับ เข้าหาตัว Magnetron ทำให้เสีย ไม่สามารถใช้งานได้
          • เตาไมโครเวฟ

            Q : การปรุงอาหารด้วยเตาไมโครเวฟดีกว่าการปรุงอาหารแบบเดิม ๆ อย่างไร

            A :  การปรุงอาหารด้วยเตาไมโครเวฟ จะสามารถทำให้ผู้บริโภคได้รับคุณค่าทางอาหารครบถ้วนสมบูรณ์กว่า ยกตัวอย่าง การลวกผักให้สุกด้วยเตาไมโครเวฟ ทำได้โดย ล้างผักให้สะอาดแล้วนำผักใส่ภาชนะปิดฝา หรือใส่ถุงพลาสติกทนความร้อนโดยไม่ต้องใส่น้ำพับปากถุง นำเข้าเตาไมโครเวฟ ใช้เวลาประมาณ 1-2 นาที (ขึ้นอยู่กับขนาดและชนิดของผัก) ระบบ HIGH ซึ่งการลวกผักในเตาไมโครเวฟจะช่วยรักษาวิตามินและคุณค่าอาหารของผัก และยังได้ผักที่มีสีสันสวยงามน่ารับประทานอีกด้วย ในขณะที่การลวกผักแบบเดิม ๆ จะทำให้คุณค่าทางอาหารสูญเสียไปกับน้ำที่ต้มแล้วทิ้ง
          • ตู้เย็น

            Q : คำแนะนำสำหรับลูกค้าที่ซื้อตู้เย็นใหม่

            A :  1. ตั้งตู้เย็นไว้ 2-3 ชั่วโมง โดยไม่ต้องเสียบปลั๊ก เพื่อต้องการให้ระบบน้ำยากลับคืนเข้าสู่สภาวะปกติ
            2. หลังจากนั้นให้เสียบปลั๊ก โดยยังไม่ต้องใส่ของในตู้เย็น ปรับปุ่มอุณหภูมิไปที่ MAX. หรือ Coldest ประมาณ 4-5 ชั่วโมง เพื่อให้ตู้เย็นปรับความเย็นในตู้ก่อน
            3. หลังจากนั้นให้ใส่ของเข้าตู้เย็น พร้อมปรับปุ่มควบคุมอุณหภูมิจาก MAX. มาที่ MED.
          • ตู้เย็น

            Q : คำแนะนำในการติดตั้งตู้เย็น

            A :  1. ควรวางตู้เย็นในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ด้านหลังและด้านข้างของตู้เย็นห่างจากผนัง หรือกำแพงไม่น้อยกว่า 6 ซม. และด้านบนห่างจากเพดานไม่น้อยกว่า 9 ซม. ถ้าเนื้อที่น้อยประสิทธิภาพการทำความเย็นจะน้อยลง และจะสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า
            2. ควรปรับระดับขาตู้เย็นด้านหน้าทั้งสอง เพื่อให้ตู้เย็นวางอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง และได้ระดับ การตรวจสอบว่าตู้เย็นตั้งได้ระดับ ทำได้โดยการเปิดตู้เย็นประมาณครึ่งหนึ่ง ถ้าประตูสามารถเคลื่อนที่เข้าหาตัวตู้ได้ แสดงว่าตู้เย็นได้ระดับเหมาะสม
          • ตู้เย็น

            Q : ผนังด้านข้างตู้เย็นร้อน

            A :  เป็นอาการปกติของตู้เย็น เพราะตู้เย็นรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ มีการออกแบบให้ท่อระบายความร้อนฝังอยู่ภายในผนังของตู้เย็น ในขณะที่ตู้เย็นรุ่นเก่า ท่อความร้อนจะเป็นตระแกรงอยู่ด้านหลังตู้
          • ตู้เย็น

            Q : การทำงานของพลาสม่าคลัสเตอร์ในตู้เย็นชาร์ปโนฟรอสต์ รุ่น พลาสม่าคคลัสเตอร์

            A :  ตัวกำเนิดอนุภาคไฟฟ้าภายในตู้เย็นจะปล่อยอนุภาคไฟฟ้าบวกและลบไปกับแรงลมที่ปล่อยออกมา กระจายอยู่ภายในตู้เย็น เพื่อฆ่าเชื้อรา และเชื้อแบคทีเรียในอากาศที่เป็นสาเหตุทำให้อาหารเสีย และสลายกลิ่นปะปน ทำให้ถนอมอาหารได้สดเสมอ ในขณะที่ เสียบปลั๊กตู้เย็นครั้งแรกไฟแสดงผลของพลาสม่าคลัสเตอร์ สีน้ำเงินจะสว่างโดยอัตโนมัติ (พลาสม่าคลัสเตอร์ทำงาน) และเมื่อกดปุ่มบนจอแสดงผลไฟสีน้ำเงินจะดับ พลาสม่าคลัสเตอร์จะหยุดทำงาน
          • ตู้เย็น

            Q : ภายในช่องแช่แข็งมีน้ำแข็งเกาะ เกิดจากสาเหตุใด

            A :  ก่อนอื่นต้องทราบว่าน้ำแข็งที่เกาะเป็นลักษณะใด กล่าวคือ 1. น้ำแข็งที่เกาะเกิดจากน้ำหกภายในตู้ จะมีลักษณะเป็นน้ำแข็งก้อนแข็งอยู่บริเวณพื้นที่ของช่องแช่แข็ง น้ำแข็งในลักษณะนี้จะไม่มีการละลาย นอกจากลูกค้าดึงปลั๊กออก
            2. น้ำแข็งที่เกิดจากไอน้ำในอากาศไปสัมผัสกับความเย็นภายในตู้ จนเกิดเป็นน้ำแข็ง ลักษณะของน้ำแข็งนี้มีลักษณะคล้ายหิมะ ซึ่ง สาเหตุการเกิด มีดังนี้
            2.1 การจัดวางของแช่ภายในตู้เย็นปิดกั้นช่องลม
            2.2 ขอบยางตู้เย็นปิดไม่สนิท
            2.3 แช่ของที่มีส่วนประกอบน้ำโดยไม่ปิดฝา เกิดการระเหย
            2.4 อุปกรณ์ทางไฟฟ้าเสีย
          • ตู้เย็น

            Q : หลอดไฟในตู้เย็นขาด เปลี่ยนเองได้หรือไม่

            A :  หลอดไฟ ลูกค้าสามารถถอดเปลี่ยนเองได้ แต่หลอดไฟที่จำหน่ายทั่วไปจะขาดเร็ว ไส้หลอดไม่ทนทาน เนื่องจากไม่ได้ ผลิตมาเพื่อรองรับอุณหภูมิความเย็น จึงแนะนำให้ใช้หลอดไฟเฉพาะของตู้เย็นชาร์ปแต่ละรุ่น การเปลี่ยนหลอดไฟควรถอดปลั๊ก ตู้เย็นก่อน
          • ตู้เย็น

            Q : การทำความสะอาดตู้เย็นอย่างถูกวิธี

            A :  1. นำอุปกรณ์ต่างๆ ภายในตู้เย็นออกจากตู้เย็นและทำความสะอาด โดยใช้ผ้านุ่มชุบน้ำอุ่นผสมน้ำยาทำความสะอาด แล้วเช็ดด้วย ผ้าแห้งอีกครั้งหนึ่ง (น้ำยาทำความสะอาดบางยี่ห้อ อาจทำปฏิกิริยากับพลาสติกภายในตู้ ทำให้แตกร้าวได้ ควรใช้น้ำยาล้างจานแทน)
            2. ทำความสะอาดภายในด้วยผ้านุ่มชุบน้ำอุ่นผสมน้ำยาทำความสะอาด แล้วเช็ดออกด้วยน้ำเย็น
            3. เช็ดตัวตู้ภายนอกด้วยผ้านุ่มทุกครั้งที่เปื้อน
            4. ทำความสะอาดขอบยางประตู โดยใช้แปรงสีฟันชุบน้ำอุ่น ผสมน้ำยาทำความสะอาด
            5. ถ้าเคลื่อนย้ายหรือทำความสะอาดตู้เย็นควรทำความสะอาดถาดน้ำทิ้งด้วย
          • เครื่องถ่ายเอกสารระบบมัลติฟังก์ชั่น

            Q : หากหน้าจอบนเครื่องถ่ายเอกสารมีสัญลักษณ์ “รูปสามเหลี่ยม” หรือ “รูปแท่งกระบอก” เกิดขึ้นมีความหมายว่าอย่างไร ?

            A :  สัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยม หมายถึง หมึกหมด สัญลักษณ์รูปแท่งกระบอก หมายถึง อุปกรณ์หมดอายุ ได้แก่ ลูกแม่แบบ ผงหมึก ยางหมึก ซึ่งอีกสัญลักษณ์ที่อาจปรากฏขึ้นเมื่ออุปกรณ์หมดอายุเช่นกันก็คือ รูปพระอาทิตย์ และรูปช่าง